Hunter Killer สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย

เตรียมพบกับอุบัติการณ์ความระทึกครั้งใหม่เมื่อกัปตันเรือดำน้ำที่ไม่เคยออกศึกมาก่อนต้องร่วมมือกับหน่วยซีลเพื่อช่วยเหลือประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลยหลังจากเกิดการปฏิวัติโดยทหารที่มีผู้นำคืออดีตนายพลรัสเซียที่แปรพักตร์เพื่อหวังจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม
เมื่อกัปตันเรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่กำลังออกภารกิจตามหาเรือดำน้ำที่สูญหาย ได้พบข้อมูลลับว่ากำลังจะเกิดการรัฐประหารขึ้นในรัสเซียที่อาจจะเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 กัปตัน โจ กลาส ต้องนำเรือดำน้ำแล่นผ่านน่านน้ำของศัตรู และขอความช่วยเหลือจากหน่วยซีลมือพระกาฬเพื่อบุกชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซียกลับมาให้ได้ ปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้นโดยมีชีวิตลูกเรือและชะตากรรมของประเทศเป็นตัวประกัน

ทำความรู้จัก Hunter Killer อาวุธทำลายล้างใต้มหาสมุทรหมายเลขหนึ่งของโลก
ความหมายจริง ๆ ของ Hunter Killer หมายถึงยุทโธปกรณ์สงครามที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจทางน้ำ โดยในเรื่องนี้จะมีความหมายเจาะจงเฉพาะเรือดำน้ำที่มีภารกิจหลักคือการล่าเรือดำน้ำของฝ่ายศัตรู

ต้นแบบของเรือที่ถูกยกให้เป็น Hunter Killer อาวุธทำลายล้างหมายเลขหนึ่งคือ เรือดำน้ำที่ชื่อ เวอร์จิเนีย คลาส ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นล่าสุดของอเมริกา ที่เริ่มออกปฏิบัติการตั้งแต่ปี 2004 (เรือตระกูลเวอร์จิเนียรุ่นแรก เริ่มออกปฏิบัติการตั้งแต่ปี 1990) มีจุดเด่นอยู่ที่ความคล่องตัวที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายและยืดหยุ่นได้ตามพื้นที่สถานการณ์ และมีการพัฒนาเพิ่มศักยภาพอยู่ตลอดเวลา ทั้งเทคโนโลยีพรางตัวรุ่นล่าสุด อาวุธนำวิถีที่แม่นยำราวจับวาง กลายเป็นแนวรบหลักใต้สมุทรที่กองทัพสหรัฐฯ วางแผนใช้งานถึงปี 2043 เป็นอย่างน้อย

ความยิ่งใหญ่ของ Hunter Killer ในคราวนี้นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ความแข็งแกร่งจากโครงสร้างน้ำหนัก 7,400 ตัน ประกอบขึ้นจากวัสดุเหล็กกล้า 1,000,000 ชิ้น จากฝีมือของทีมวิศวกรและแรงงานช่าง 5,000 ชีวิต สมรรถนะพื้นฐานสามารถดำน้ำได้ลึกสุด 500 ฟุต ใช้เวลาเพียง 14 วันในการดำน้ำรอบโลก และสามารถออกปฏิบัติภารกิจใต้น้ำได้นานถึง 25 ปี โดยไม่ต้องหยุดพัก

อาวุธหลักประกอบด้วย มิสไซล์โทมาฮอว์ก 38 ลูก ตอร์ปิโด 4 ลูก พิกัดยิงไกล 1,200 ไมล์ อานุภาพของอาวุธทั้งหมดรุนแรงกว่าระเบิดที่ถล่มเกาะฮิโรชิมา 3,000 เท่า พร้อมกับส่วนสำคัญที่สุดในงานข่าวกรองคือระบบเครื่องดักฟังที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแล็ปท็อป 2,000 เครื่อง

Author: mama